
นายหน้าขายบ้าน มืออาชีพ
Chuanchom Property | Real Estate Agent
นายหน้าขายบ้าน ที่เชี่ยวชาญ ซื้อ ขาย บ้าน และอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ
หากคุณกำลังมองหา นายหน้าขายบ้าน หรือ ตัวแทนขายบ้าน ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยคุณ ทำการตลาดและดำเนินการขายบ้าน คอนโด และอสังหาริมทรัพย์ของคุณ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยเราดูแลให้คุณหมดครบทุกขั้นตอน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จนกว่าจะขายได้ เรามุ่งมั่นบริการด้วยความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และยึดมั่นในจรรณยาบรรณวิชาชีพ
“ เพราะความสำเร็จของคุณ คือ เป้าหมายสูงสุดของเรา ”
ทรัพย์แนะนำ
เราคัดสรรทรัพย์มาให้คุณ เพื่อให้คุณเลือกทรัพย์ที่ถูกใจและใช่สำหรับคุณ
บริการ รับฝากขายบ้าน ที่ดิน บ้านมือสองและอสังหาฯ ทุกประเภท ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ทำการตลาดฟรี
ดูแลให้หมดครบทุกขั้นตอน
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จนกว่าจะขายได้
ไม่บวกราคาขายเพิ่ม
บทความแนะนำ
หนังสือมอบอำนาจ มีวันหมดอายุหรือไม่
กรมที่ดิน ชี้แจง ผ่าน “เรื่องเล่าชาวดิน” กรณีหนังสือมอบอำนาจ มีวันหมดอายุหรือไม่ สำหรับกรณีการใช้หนังสือมอบอำนาจในการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ หนังสือมอบอำนาจไม่มีวันหมดอายุ แต่อย่างไรก็ดี เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจสอบสวนและตรวจสอบเกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจ หากมีข้อสงสัยหรือมีเหตุควรเชื่อเกี่ยวกับความถูกต้อง หรือเจตนาของผู้มอบอำนาจไม่น่าจะเป็นไปตามหนังสือมอบอำนาจ เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจไม่รับดำเนินการตามหนังสือมอบอำนาจนั้นได้
หากเจ้าของที่ดินเสียชีวิต โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ใครมีสิทธิรับมรดกที่ดิน
กรมที่ดิน ได้คลายข้อสงสัย กรณีเจ้าของที่ดินได้เสียชีวิตลง โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ดังนั้นใครบ้างที่จะมีสิทธิที่จะได้รับมรดกที่ดินนั้นบ้าง ดังนี้ ผู้ที่มีสิทธิรับมรดกที่ดิน คือ ทายาทโดยธรรม ซึ่งมีทั้งหมด 6 ลำดับ โดยลำดับก่อนหน้าจะตัดสิทธิลำดับถัดไป ยกเว้น ผู้สืบสันดานและบิดามารดาที่สามารถรับมรดกพร้อมกันได้ ทายาทโดยธรรมทั้ง 6 ลำดับ ได้แก่1. ผู้สืบสันดาน เช่น บุตร หลาน เหลน2. บิดามารดา3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน4. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน5. ปู่ ย่า ตา ยาย6. ลุง ป้า น้า อานอกจากนี้ คู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและยังมีชีวิตอยู่ ก็มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมด้วย
ภาระจำยอมกับทางจำเป็น แตกต่างกันอย่างไร
ปัญหาของที่ดินที่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะหรือที่ดินที่ไม่มีทางสัญจรไปมาที่เรียกว่าที่ดินตาบอดหรือที่ดินที่ต้องตกอยู่ในภาระจํายอมโดยเจ้าของที่ดินต้องรับกรรมบางอย่างเพื่อให้ที่ดินแปลงอื่นได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของตน โดยกฎหมายได้กําหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับเจ้าของที่ดินไว้เป็น 2 ลักษณะ คือกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องภาระจํายอมและกฎหมายว่าด้วยเรื่องทางจําเป็นซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยกฎหมาย 2 เรื่องนี้มีลักษณะทางกฎหมายและผลบังคับใช้แตกต่างกันและยังเป็นที่สับสนว่าที่ดินลักษณะใดเป็นทางจําเป็นหรือที่ดินลักษณะใดเป็นภาระจํายอม ดังนั้น บทความนี้จึงเขียนขึ้นในลักษณะเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของกฎหมายทั้งสองเรื่อง ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้ ข้อแตกต่างระหว่างภาระจำยอมกับทางจำเป็น ภาระจำยอม ทางจำเป็น 1. ความหมายภาระจํายอม หมายถึง ทรัพยสิทธิชนิดหนึ่งที่ตัดทอนอํานาจกรรมสิทธิ์ โดยทําให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์อันหนึ่งซึ่งเรียกว่า ภารยทรัพย์ต้องรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบกระเทือนทรัพย์สินของตน หรือทําให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์อื่นเรียกว่าสามยทรัพย์ (มาตรา ๑๓๘๗ ป.พ.พ.) 1. ความหมายทางจําเป็น หมายถึง ที่ดินที่ถูกล้อมด้วยที่ดินแปลงอื่นอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้หรือมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้แต่ไม่สะดวก เช่น จะต้อง ข้ามบึง ทะเล หรือที่ลาดชันอันระดับที่ดินกับทางสาธารณะสูงกว่ากันมาก (มาตรา ๑๓๔๙ แห่งป.พ.พ.) กฎหมายจึงให้สิทธิแก่เจ้าของที่ดินแปลงที่ถูกล้อมให้มีสิทธิผ่านที่ดินแปลงอื่นซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้ (คําพิพากษาฎีกาที่ ๕๖๗๒/๒๕๔๖ (ประชุมใหญ่)) 2. องค์ประกอบ– ไม่จําเป็นต้องเป็นที่ดินที่ถูกล้อมหรือที่ดินที่อยู่ติดกัน แม้ที่ดินไม่ได้อยู่ติดกันก็สามารถใช้ทางภาระจํายอมได้– ไม่จําเป็นต้องเป็นทางออกสู่ทางสาธารณะภาระจํายอมไปสู่ที่ใดก็ได 2. องค์ประกอบ– ต้องเป็นที่ดินที่มีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ และ– ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ หรือมีแต่ไม่สะดวก– ใช้ออกสู่ทางสาธารณะอย่างเดียว 3. การได้มา– […]



